จุดชมวิวคิงคอง เขาค้อ

                                    จุดชมวิวคิงคอง เขาค้อ

จุดชมวิวคิงคอง เขาค้อ  ตั้งอยู่บริเวณทุ่งกังหันลมเขาค้อ และไร่ GB เป็นจุดชมวิวที่มีหุ่นฟางคิงคองยักษ์ขนาดใหญ่ ทางเดินลอยฟ้าไปยังลานระเบียงชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของเขาค้อได้แบบพาโนราม่า 

นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของจุดชมวิวยังมีมุมถ่ายภาพที่น่ารักมากมาย ทั้งแปลชิงช้า รูปปั้นยอดมนุษย์ต่าง และมุมของดอกไม้เมืองหนาวและดอกหญ้าพริ้วไหวรวมทั้งที่พักแบบกระโจม เต้นท์วิวดีริมภูเขา รวมทั้ง ร้านกาแฟ คอยให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

จุดชมวิวคิงคอง ตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับทุ่งกังหันลม ก่อนถึงไร่ GB นิดนึง เมื่อมาถึงสามารถจอดรถได้หน้า จากนั้นซื้อตั๋วเข้าชมพื้นที่ด้านในราคาคนละ  40 บาทภายในจุดชมวิวมีทั้งแปลงดอกไม้เมืองหนาวขนาดเล็ก ซึ่งจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล มุมแปลชิงช้า 

              
                    

และหุ่นฟางคิงคองยักษ์ 2 ตัว และจระเข้ ที่มีมุมที่นั่ง สามารถเข้าไปสัมผัสและถ่ายรูปได้แบบใกล้ชิดรูปปั้นยอดมนุษย์ต่างๆ ประดับด้วยดอกหญ้าพริ้วไหวเดินไปสุดทาง คือ ลานระเบียวชมวิว ที่ทำเป็นทางเดินทอดยาว สำหรับ

ชมวิวในมุมกว้างจุดชมวิวคิงคองขาค้อ

เปิดให้บริการทุกวัน โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 40 บาท

ที่เที่ยวทุ่งดอกหงอนนาค จังหวัดปราจีนบุรี

                                ที่เที่ยวทุ่งดอกหงอนนาค  จังหวัดปราจีนบุรี

ทุ่งดอกหงอนนาค  ไม่ต้องดั้นด้นไปถึงภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ แค่เดินทางเพียง 2 ชั่วโมง

จากกรุงเทพ ก็จะได้ ชมความสวยงาม ของ ทุ่งดอกหงอนนาค นับหมื่น ๆ ต้น ที่ตั้งอยู่ภายในไร่ศักดิ์สุภา รีสอร์ท ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี โดยแบ่งเป็นแปลงเล็ก ๆ 

รวมมากกว่า 10 ไร่ดอกหงอนนาคนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็น น้ำค้างกลางเที่ยง เพราะจะบานตอนเช้า ประมาณ 7 โมง และเริ่มหุบประมาณบ่ายสองถึงบ่ายสามโมง

                     

ไร่ศักดิ์สุภา รีสอร์ท เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน แต่ถ้าไปกันแล้วก็อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาด และรักษาดอกไม้ให้สวยงามคงเดิมด้วยนะคะ

เที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี

                   เที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี

ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีประมาณ 108 กิโลเมตร น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมี สภาพสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณ ร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด น้ำตกไหลมา 

จากต้นน้ำของเทือกเขากะลาซึ่งเป็นป่าดิบเขาแล้ง ทางทิศตะวันออกของอุทยานฯ และไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ เขื่อนศรีนครินทร์ นับเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แบ่งออกเป็น 7 ชั้น 

มีชื่อเรียกต่างๆกันไปแต่ละชั้น เช่น ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า แต่ละชั้นมีความสูงและความงดงามต่างกันไป 

                    

ทางอุทยานฯได้ทำเส้นทาง เดินสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้นและยังเป็นเส้นทางเดินศึกษา ธรรมชาติ เป็นน้ำตกที่ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี

ค่าธรรมเนียมเข้าชม

- ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ 40 บาท/คน เด็ก 20 บาท/คน

- รถกอล์ฟคิดค่าบริการเที่ยวละ 20 บาท/คน

การเดินทางไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษมผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม.จะพบสะพาน ลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยกให้เลี้ยว ขวาแยกซ้ายไปบ้านโป่ง เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี 

จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยนให้ขับไปทางอ.ศรีสวัสดิ์ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 ตัดไปออกเขื่อนท่าทุ่งนา วิ่งไปน้ำตกเอราวัณ ผ่านถ้ำพระธาตุ ทางลาดยางถึงห้วยขมิ้น

                     

- ทางแพขนานยนต์

โดยท่านจะต้องขึ้นทางชันที่เขียนว่าแพขนานยนต์ จากนั้นให้ขับไปตามทางเรื่อย ๆ ตามถนนเส้นหลักสุดทางจะเป็นแพขนานยนต์ และสามารถขับรถไปบนแพขนานยนต์ เพื่อข้ามฝั่ง ข้ามฝั่งตรงนี้ใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 10 นาที หลังจากขึ้นจากแพ แล้วให้ขับตามทาง ลาดยางมา ประมาณ 10 กม. 

จะพบกับป้ายบอกทางไป น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ทางจะเป็นลูกลังขับตามทางประมาณ 5 กม.ก็จะพบกับ แพขนานยนต์อีกที่หนึ่งใช้เวลาข้าม ประมาณ 1.30 ชม. ก็จะถึงฝั่ง หลังจากขึ้นจากฝั่งให้ท่านขับตามป้าย น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นประมาณอีก 5 กม. ก็จะ ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และที่นั่นก็จะเป็นตัวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

2. โดยรถสาธารณะ

จากเมืองกายจนบุรีขึ้นรถสองแถวจากบริเวณวัดทุ่งลาดหญ้าในเขตอำเภอเมือง ผ่านบ้านต้นมะพร้าว บ้านน้ำมุด พุดตาเซียน ถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น รถออกเวลาประมาณ 12.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 
หมายเหตุ  เวลารถโดยสารอาจ เปลี่ยนแปลงได้

ที่เที่ยวสวนดอกไม้ บิ๊กเต้ จังหวัดสระบุรี

                        ที่เที่ยวสวนดอกไม้ บิ๊กเต้ จังหวัดสระบุรี

สวนบิ๊กเต้ มวกเหล็ก เป็น สวนดอกไม้ บนพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 100 ไร่ ที่เน้นปลูกดอกเบญจมาศมากกว่า 30 สายพันธุ์ ในโรงเรือน มีหลากสีสันโดยเน้นปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อจำหน่ายขายส่ง จึงมีให้ชมตลอดปี

สวนบิ๊กเต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใครๆ ได้เห็นภาพดอกเบญจมาศ สีสันสวยงามละลานตาคงอดไม่ได้ที่อยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง และน่าจะมีอีกไม่น้อยที่ทราบชื่อเสียงของสวนนี้ผ่านการเป็นสวนในละครเรื่องดังทางช่อง 3 บัลลังก์ดอกไม้แลนมาร์คป้ายชื่อสวนที่นี่ 

ออกแบบได้เก๋ เป็นแท่นทรงกลมสูง ลายอิฐและ ดอกเบญจมาศ วางม้านั่งไม้
ให้นั่งถ่ายภาพเป็นที่ระลึก การปลูกเบญจมาศ ของที่นี่ เป็นโรงเรือนมีที่มุงบัง แต่ไม่ได้มิดชิด เป็นการปลูกดอกเบญจมาศตลอดทั้งปี สลับกันเป็นแปลงๆ แต่ละแปลงอาจมีสีเดียว หรือหลายสีสลับ แต่อย่างน้อยก็เป็นกลุ่มสีเดียวกัน 

                       

ทั้งสวนมีมากกว่า 30 สายพันธุ์ เช่น อัปปาเหลือง ฮาฟสไปเดอร์ ปิงปอง มัมชมพู ฮาวาย จึงเป็นมุมให้ถ่ายภาพกันอย่างจุใจ มุมไหนก็สวย และไม่ซ้ำสี 
ไม่ซ้ำแบบอีกด้วย ด้วยความที่ไม่ได้ปลูกพร้อมกัน จึงสลับกันบาน 

ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถไปชมเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะงดงามทุกวัน ตลอดทั้งปี สมกัลสโลแกนที่ทางสวนยืนยันว่า จะมาวันไหน ก็สวยแบบนี้

นักท่องเที่ยวที่นี่มีทั้งเป็นครอบครัว หนุ่มสาว หรือกลุ่มสาวๆ ที่เป็นของคู่กันกับดอกไม้สวย แวะเที่ยวกันเป็นประจำ และหากสนใจขอซื้อกลับบ้านได้ แต่สุดท้ายก็สวยสู้ตอนอยู่บนต้นเต็มสวนไม่ได้

                     

ข้อห้ามเวลาชม ให้เดินตามทางระหว่างแปลง ไม่เด็ดดอกไม้ หรือย่ำ
เข้าไปในแปลงเพื่อถ่ายภาพ หรือทำการอย่างอื่นที่ทำให้แปลงดอกไม้เสียหายชมดอกไม้ ถ่ายภาพมุมไกล มุมใกล้ รวมถึงวิวทิวทัศน์โดยรอบแล้ว สามารถแวะรับประทานของว่างและเครื่องดื่มได้ ทางสวนบิ๊กเต้ เปิดร้านอยู่ด้านหน้าของสวนเลย

นอกจากนั้น ยังมีของฝากน่าซื้อไปฝากที่บ้านคือ ป๊อปคอร์นคาราเมล เกรดพรีเมี่ยมถ้าชอบความสดชื่น สวยงามของดอกไม้ คุณสาวๆ แต่งตัวสวยๆ ไปเก็บภาพกัน หรือจะไปเป็นหมู่ เป็นคู่ ได้หมด สระบุรี 

ไม่ได้มีสวยเฉพาะทานตะวัน ปอเทือง หรือดาวเรือง และดีที่สุดเบญจมาศที่นี่ อยากไปเมื่อไหร่ก็ได้

ที่ตั้ง 172 หมู่5 ตำบล หนองย่างเสือ อำเภอ มวกเหล็ก สระบุรี 18180

ที่เที่ยวอุทยานพระพิฆเนศ นครนายก

                        ที่เที่ยวอุทยานพระพิฆเนศ นครนายก

อุทยานพระพิฆเนศ จ.นครนายกเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเณศขนาดใหญ่ ภายในอุทยานพระพิฆเณศมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ 2 ปาง 

ตั้งอยู่ใกล้ กันถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่เกิดขึ้นมาด้วยพลังศรัทธาจากประชาชน เป็น แหล่งท่องเที่ยวทาวัฒนธรรม

ของ จังหวัดนครนายก นอกจากมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุด ยังมีพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ 108 ปางให้ชม และสักการะบูชา รูปปั้นฤาษีลิงดำปางต่างๆ 

                         

นอกจากนั้นยังมี พระบรมสารีริกธาตุจาก 9 ประเทศ ให้เราได้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้นอกจากนั้น ยังเป็น สถานที่สำหรับ ปฏิบัติธรรม เพื่อทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญรุ่ง

เรืองสืบไป มีคุณประโยชน์ในหลายๆด้าน ถ้ามีโอกาสมาเมืองนครนายกอย่าลืมแวะเข้ามากราบไหว้บูชา องค์พระพิฆเนศ เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง

อุทยานพระพิฆเนศ เกิดจากแนวคิดของพระราชพิพัฒน์โกศล หรือหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหารบางขุนนนท์ กรุงเทพฯ โดยท่าน

                     

ได้รับการถวายที่ดินจำนวน 16 ไร่ จากลูกศิษย์หลวงพ่อภู อดีตเจ้าอาวาสวัดเวฬุราชิน ย่านบางยี่เรือกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ดินล้อมรอบด้วยคลองธรรมชาติ 

เดิมที่นั้นท่านตั้งใจจะสร้างเป็นบ้านพักคนชรา แต่ต้องพักโครงการไปจนที่ดินถูกทิ้งร้างมาเป็น เวลานาน จนกระทั่งท่านเกิดแนวความคิดสร้าง 

ศูนย์ปฏิบัติธรรมพระพิฆเนศวร หรือ พระพิฆเนศ หรือ พระพิฆเณศ หรือ พระวิฆเณศวร หรือ พระคเณศ หรือ คณปติ เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ 

ผู้คนนับถือว่าเป็นเทพเจ้า แห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศปราดเปรื่องในศิลป วิทยาทุกแขนง เป็นหัวหน้านำคณะข้ามความขัดข้อง 

                      

ผู้เป็นใหญ่เหนือความขัดข้องทั้งนี้ คนไทยถือว่า องค์พระพิฆเนศเป็นเคารพ 
กการะในฐานะองค์บรมครูแห่งศิลปวิทยา การ 18 ประการ 

โดยคนไทยยอมรับ ในองค์พระพิฆเนศให้เป็นเทพแห่งศิลปะ ทั้งมวล และเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ

การเดินทางไปอุทยานพระพิฆเนศ

โดยรถยนต์ส่วนตัว

เริ่มต้นกันที่ถนนวิภาวดีรังสิตเข้า สู่ถนนรังสิต-นครนายก  ผ่านมศว.องครักษ์  พิพิธพันท์วิทยาศาสตร์ ขับตรงยาวไป  60-70 กก. กจะถึงแยก
ให้เรา เลี้ยวซ้ายตามป้าย นครนายก ,ปราจีนบุรี เส้นทางจะผ่านตัวเมืองนครนายก ยึดป้ายทางไปน้ำตกสาริกา กับน้ำตกนางรองอุทยาน จะถึงก่อนน้ำตกสาริกา ประมาณ 16 กม. ตามเส้นทางขับไปเรื่อยๆ จะเจอแยกซ้ายเข้าวัดเขาแดง ในซอยนี้ขับเข้าไป 200 เมตร ก็จะพบกับตัวอุทยานพระพิฆเนศ

โดยรถสาธารณะ
มีรถตู้จากอนสาวรีย์ชัย ให้ขึ้นรถตู้ กรุงเทพ – เขื่อนขุนด่าน จากรังสิตให้ขึ้นรถตู้สายองครักษ์-เขื่อนขุนด่านที่ใต้สะพานฟิวเจอร์รังสิต รถจะผ่านน้ำตก วังตะไคร้ อุทยานพระพิฆเนศ วัดหลวงพ่อปากแดง และสิ้นสุดที่หน้าเขื่อนขุนด่าน บอกให้รถไปส่งที่วัด และให้ขอเบอร์โทร เวลากลับหรือจะนั่งรถไปต่อที่ เขื่อนขุนด่านก็ให้โทรแจ้ง

ที่เที่ยวสะพานทุ่งนามุ้ย จ.นครนายก

                         ที่เที่ยวสะพานทุ่งนามุ้ย จ.นครนายก

สะพานทุ่งนามุ้ย ตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก เป็นสะพานไม้ไผ่
ที่ทอดยาวคดเคี้ยวเป็นรูปตัวเอส พาดผ่านบนท้องนาของลุงอ๊อด 

เจ้าของไร่ ยาวกว่า 150 เมตร บรรยากาศร่มรื่น ด้วยต้นไม้สีเขียวและทิวเขาน้อยใหญ่รูปทรงแปลกตากันไปตั้งแต่เขาหล่นจนถึงเขาใหญ่นักท่องเที่ยว

สามารถมาขี่จักรยานเที่ยวชมทุ่งแบบชิลๆ มาถ่ายรูปชิคๆ บนสะพานไม้
สุดอันซีน ก่อนกลับบ้านอย่าลืมอุดหนุนสินค้าจากสมาชิกชาวนาทั้งข้าว
ไร้สารพิษ 

                      

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ แถมมี ผักสวนครัว เพาะใส่ถุงให้เลือกซื้อกลับบ้านได้
ในอนาคต ลุงอ๊อดจะพัฒนาที่นี่เป็นฟาร์มสเตย์ มีกระท่อมให้นอน 
มีลานกางเต็นท์ 

ทดลองปลูกผักเองได้ เก็บผักเองได้ และจากรูปด้านบน โฟกัสไปที่เพิงด้านหลังค่ะ เจ้าของไร่กำลังสร้างเป็นร้านกาแฟ และทีเด็ดกว่านั้นคือ 

มีร้านกาแฟบนต้นไม้ด้วย ทีนี้ก็ไม่ต้องไปไกลถึงชายเหมี่ยงเชียงใหม่กันแล้วค่าหลังจากดื่มด่ำธรรมชาติที่ สะพานทุ่งนามุ้ย 

                     

 

จนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวต่อที่น้ำตกวังตะไคร้ ซึ่งอยู่ใกล้กันเพียง 2 กิโลเมตร และห่างจากวัดหลวงพ่อปากแดง 7 กิโลเมตร

สะพานทุ่งนามุ้ยไม่เก็บค่าเข้าชม แต่มีกล่องบำรุงค่าสะพานให้นักท่องเที่ยวหยอดเงินตามกำลังค่ะ

ท่องเที่ยวไร่ปลูกรัก จ.ราชบุรี

                               ท่องเที่ยวไร่ปลูกรัก จ.ราชบุรี

หาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ถ่ายรูปสวย แบบรักธรรมชาติต้องที่นี่เลย ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ที่นำเสนอการท่องเที่ยวด้วยปัญญา

ไร่ที่มีความคิดซับซ้อนแบบเกษตรกรที่ใส่ใจในระบบนิเวศน์ มีหลากหลายโซนให้ได้ทำกิจกรรมกัน บอกเลยว่าที่นี่สามารถใช้เวลาอยู่ได้เป็นวันเลย 

เพราะกิจกรรมหลากหลายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกข้าว แบบนาโยน เก็บไข่เป็ด ทำไข่เค็ม ให้อาหารสัตว์ เก็บดอกไม้ ทำอาหาร กินอาหารสด ๆ 

จากฟาร์ม และเล่นว่าว เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย

                      

ตั้งอยู่ที่ 130 หมู่ 1 ถนนเพชรเกษม กม.78 จะพบสหกรณ์โคนมหนองโพ ที่ ก.ม. 78 ให้วิ่งตรงมาอีกประมาณ 5 ก.ม. จะพบไร่ปลูกรักที่ ก.ม.78 ไร่จะอยู่ทางซ้ายมือ วังเย็น  บางแพ  ราชบุรี

เบอร์ติดต่อ 0863327365

เวลาเปิดบริการ เสาร์ อาทิตย์ 09:00 - 18:00
ประเภท ไร่/ฟาร์ม/สวนเกษตร  กิจกรรมและความบันเทิง

ฤดูกาลแห่งความสดชื่น ท่องเที่ยวบ้านสะจุก-สะเกี้ยง-เปียงซ้อ จ.น่าน

     ฤดูกาลแห่งความสดชื่น ท่องเที่ยว บ้านสะจุก-สะเกี้ยง-เปียงซ้อ จ.น่าน

จุดมุ่งหมายของโครงการนี้ก็เพื่อเร่งฟื้นฟู สภาพป่าต้นน้ำบริเวณยอดดอยขุนน่าน ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง อีกทั้งยังให้ความรู้เรื่องการ
ทำนาแบบขั้นบันได และ การเกษตรที่สูง ที่ช่วยรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกชะล้างไปกับกระแสน้ำช่วงหน้าฝน ช่วยเพิ่มเพิ่มผลผลิตและทำให้มีรายได้เลี้ยง

                     

 

ครอบครัวนอกจากบรรยากาศของนาข้าวขั้นบันได ที่ลาดไปตามเนินเขาบนโครงการฯ ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน  ยังมีแปลงผักปลอดสารพิษ พืชผักผลไม้เมืองหนาว การทำปศุสัตว์ในครัวเรือน อย่างการเลี้ยงหมู ไก่ เป็ด แกะ และแพะ รวมถึงบ้านพักหลังเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ในไร่ชา 

ตลอดจนลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ อาคารสำหรับปรุงอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย

                

ถัดจากสถานีเกษตรที่สูงไม่ไกลเป็น จุดชมวิว บ้านเปียงซ้อ ห่างจาโครงการฯ ไปประมาณ 5 กิโลเมตร จากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นวิว

บ้านสะจุก สะเกี้ยง ได้แทบจะ 360 องศา และทะเลหมอกโอบกอดยอดเขาสุดตระการตา ที่สำคัญคือเป็นจุดเชื่อมพรมแดนระหว่างไทย-ลาว เราสามารถเดินไปชมหลักเขตประเทศไทยได้ค่ะ

               

ที่ตั้ง  บ้านสะจุก ม. 7 และบ้านสะเกี้ยง ม. 8 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ 
จ.น่าน โทร. : 08-4818-1008

เปิดให้เข้าชม  ทุกวัน 08.30-17.00 น.

ฤดูท่องเที่ยว  สิงหาคม-กันยายน เที่ยวฤดูฝนดูนาข้าว / พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เที่ยวหน้าหนาว

การเดินทาง  จากตัวเมืองวิ่งออกมาทางทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1169 วิ่งตามทางไปประมาณ 37 กม. จะสุดทางให้เลี้ยวขวาเข้าถนนลอยฟ้า 1081 อำเภอสันติสุข-อำเภอบ่อเกลือ ตรงไปจนผ่านอุทยานแห่งชาติขุนน่านแล้วมุ่งตรงไปอีกประมาณ 44 กม. เพื่อเข้าสู่ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง

เที่ยว กิน ช้อป ท่องเที่ยวตลาดน้ำสามวัง จ.ชลบุรี

              เที่ยว กิน ช้อป ท่องเที่ยวตลาดน้ำสามวัง จ.ชลบุรี 

ตลาดน้ำสามวัง ตั้งอยู่ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของคนในชุมชน ที่มองเห็นว่าพื้นที่เหมาะสมกับทำตลาดน้ำ เพราะมีลำคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน ซึ่งชื่อตลาดน้ำสามวังก็มาจากวังน้ำในคลองสายนี้ คือ วังหิน วังตะเคียน และวังโมก นั่นเอง
                        
                     

บรรยากาศในตลาดจะเป็นสไตล์บ้าน ๆ กลิ่นอายชนบท มีซุ้มขายอาหารต่าง ๆ ขนาบไปตลอดแนวทางเดิน อาหารที่จำหน่าย เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา กุ้งเผา ผัก ผลไม้ และของคาว-หวาน อีกมากมาย เลือกซื้อเสร็จแล้วก็ไปนั่งพักหลบร้อน เอาเท้าแช่น้ำ พร้อมทานอาหารชิลล์ ๆ บนแคร่ไม้ไผ่ริมตลองได้

                     

                      
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีให้ บริการล่องเรือ ชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง หรือจะพายเรือเล่นเองเค้าก็ไม่ว่า หากนั่งเรือไปถึงท้ายคลอง จะเจอวิวทุ่งนา มุมถ่ายรูปสวย ๆ กับเปลญวนไว้นอนรับลมเย็น ๆ ส่วนตอนค่ำ ก็มีบริการล่องเรือชมหิ่งห้อยด้วย

                     

เวลาเปิด-ปิด  ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09:00 น.เป็นต้นไป

อัตราค่าบริการ

นั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง คนละ 30 บาท

นั่งเรือชมหิ่งห้อย รอบค่ำ คนละ 50 บาท
พายเรือ ลำละ 50 บาท

สวนดอกไม้เปิดใหม่ จ.เชียงใหม่

                              สวนดอกไม้เปิดใหม่ จ.เชียงใหม่

I love flower Farm สวนดอกไม้ ขนาด 8 ไร่ สะพรั่งไปด้วยหมู่มวลดอกไม้หลากหลายชนิด ทั้งดอกคัตเตอร์สีขาวละมุน ดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดใส และดอกมาร์กาเร็ต สีม่วงอ่อนที่ถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาสวยสุด ๆ

สำหรับค่าเข้าชม ก็ถูกมาก ๆ แค่ 70 บาท แถมได้ Welcome set 1 ชุด เป็นน้ำสมุนไพร หรือ น้ำผลไม้ และ ขนมพื้นบ้าน อย่าง ขนมตองตึง ขนมวง ขนมตัวหนอน ขนมต้มขนมข้าวเปี่ยง ฯลฯ ซึ่งเมนูจะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มีในแต่ละฤดูกาลค่ะ

                       

และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงป้องกันไม่ให้แปลงดอกไม้เสียหาย ทางสวนจึงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 200 คนต่อวัน สามารถจองผ่าน Inbox Facebook : I love flower Farm หรือโทรสอบถาม ก่อนเข้าชม 1 อาทิตย์ ที่เบอร์ 082-897-2679, 088-266-7885

เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 09.00 – 18.00
ที่ตั้ง : ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ฤดูกาลเที่ยว น้ำตกทีลอซู จ.ตาก

                           ฤดูกาลเที่ยว น้ำตกทีลอซู  จ.ตาก

น้ำตกทีลอซู ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก สัมผัสความอลังการแห่งสายน้ำ และความงดงามที่ ธรรมชาติสร้างสรรค์ ซึ่งสายน้ำนี้เกิดจากลำห้วยหลัก 2 สาย คือ ห้วยทีเครโกร และห้วยกล้อทอ ไหลผ่านช่องเขาขาด กลายเป็นน้ำตกทีลอซู ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ลงกระทบโขดหินเบื้องล่าง

เสียงดังกึกก้องบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่โดยทุกปี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จะทำการปิดเส้นทางเดินรถยนต์ จากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวง ถึงน้ำตกทีลอซู เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน และกลับมาเปิดอีกครั้ง วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม

ข้อปฏิบัติ และข้อห้าม

1. ใช้บริการยานพาหนะที่กลุ่มสหกรณ์เดินรถจัดไว้ให้ ระหว่าง ศูนย์แสดงสินค้า เทศบาลตำบลแม่กลอง ถึงน้ำตกทีลอซู

2. รถรับ-ส่งแต่ละคัน ให้บรรทุกไม่เกิน 10 คน/คัน หากมีนักทัศนศึกษาเกิน 10คน ให้ใช้ รถยนต์มากว่า 1 คัน ยกเว้นมีเด็กเล็กที่มากับผู้ปกครอง ให้พิจารณาเป็นกรณีๆ

3. เวลาเข้า-ออก น้ำตกทีลอซู กรณีไป-กลับ สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. ส่วนนักท่องเที่ยวที่ประสงค์พักค้างแรม สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30 น.

4. ขอความร่วมมือเจ้าของรถที่ให้บริการและผู้โดยสาร ห้ามนั่งบนหลังคารถยนต์หรือโหน

5. นักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมความงดงามของน้ำตกทีลอซู มี 2 เส้นทางให้เลือก คือ

– ใช้บริการยานพาหนะที่กลุ่มสหกรณ์เดินรถจัดไว้ให้เข้าไปที่ทำการเขตฯ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง

– ล่องแพตามลำน้ำแม่กลอง จากอำเภออุ้มผาง ผ่านน้ำตกทีลอจ่อ ซึ่งจะปรากฏ รุ้งกินน้ำ เวลาประมาณ 09.30-10.00 น. แล้วไปขึ้นฝั่งที่หน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนั่งรถต่อไปอีกประมาณ 45 นาที

6. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวน้ำตกทีลอซู จะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม – พฤษภาคม

ศูนย์การแสดงสัตว์น้ำบางแสน จังหวัดชลบุรี

                  ศูนย์การแสดงสัตว์น้ำบางแสน จังหวัดชลบุรี

ศูนย์ การแสดงสัตว์น้ำบางแสน อยู่ชิดกับมหาวิทยาลัยบูรพา ก่อนถึงหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ข้างในแบ่งได้ 3 ส่วน เป็นต้นว่า พิพิธภัณฑสถานวิทยาศาสตร์ทางทะเล สถานที่เลี้ยงสัตว์น้ำทะเล และก็ห้องทำการด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล ส่วนนี้ไม่อนุญาติให้นักเดินทางเข้าชม

ไฮไลท์เด็ดของตรงนี้คงจะหนีไม่พ้น เจ้าแมงกะพรุนเรืองแสง นานาประการสายพันธุ์ ลำตัวของมันใส แต่ว่าที่พวกเรามองเห็นมันกลายเป็นสีสันต่างๆได้นั้น เพราะเหตุว่าไฟที่จัดตั้งไว้ภายในตู้แสดงนั่นเอง

ถักจากโซนน้องแมงกะพรุน จะพบกับแทงค์ปลาขนาดบิ๊กไซต์ มีอีกทั้งปลาแพทย์สมุทร ปลากระเบน ฉลามเสือดาว ฝูงปลากระมง รวมทั้งปลาตัวใหญ่อื่นๆส่วนตู้สำหรับเลี้ยงปลาขนาดย่อลงมาก็มีปลาการ์ตูนสีดำ ปลาการร์ตูนสีส้ม หอย ต้นปะการัง รวมทั้งสัตว์ในทะเลอีกเยอะแยะ

นอกนั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษอย่าง โชว์แสดงการมุดน้ำ ให้อาหารปลา ถ่ายภาพคู่นักประดาน้ำ แล้วก็ให้อาหารปลาปากบ่อ
เนื้อหาการเข้าชม

                     

                     

เปิดแต่ละวัน เวลา 08.30 – 17.00 น.

ดูการมุดน้ำให้อาหารปลา จันทร์-วันศุกร์ เวลา 14.30 น. / เสาร์-อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์เวลา 10.30 น. และก็ 14.30 น.
ร่วมกิจกรรมให้อาหารปลาปากบ่อ เวลา 14.00 น. มีค่าใช้จ่ายคนละ 50 บาท
ค่าเข้าชมเด็ก 40 บาท /คนแก่ 80 บาท
คนประเทศอื่น เด็ก 120 บาท/คนแก่ 220 บาท

เที่ยวดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

                           เที่ยวดอยอ่างขาง  จังหวัดเชียงใหม่

อยู่ในเขตหมู่บ้านคุ้มหมู่ที่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,400 เมตร คำว่า อ่างขาง ในภาษาเหนือ หมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของ ดอยอ่างขางซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขา ยาวล้อมรอบ ประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของ อ่างขางเดิม เป็นเป็นภูเขาสูงเช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็น ภูเขาหินปูน 

เมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อยๆ ละลายเป็น โพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร มีพื้นที่ใช้ทำการเกษตรในงานวิจัยประมาณ 1,800 ไร่ มีหมู่บ้าน ชาวเขา ที่ทางสถานีฯให้การส่งเสริมและพัฒนา อาชีพรวม 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหลวง บ้านคุ้ม บ้านนอแล บ้านปางม้า บ้านป่าคา และบ้านขอบด้ง ซึ่งประกอบไปด้วย ประชากร 4 เผ่าได้แก่

ไทยใหญ่ มูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 17.7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาในเดือนเมษายน และอุณหภูมิต่ำสุด 5 องศาเซเซียสในเดือนมกราคม ซึ่งหากมาเที่ยวในช่วงดังกล่าวอาจพบกับแม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งได้

                                      

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

ตั้งขึ้นโดยสืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร ที่หมู่บ้าน ผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณ ดอยอ่างขางทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่น แต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ 

ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่น ๆ ของประเทศได้ จึงทรงมีพระราชดำริ ว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นมีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่ เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนักประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่า กับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง 

และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลอง วิธีติดตาต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละ พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่ในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง